แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ทุกข์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ทุกข์ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เรามีความทุกข์ เพราะอะไร

การที่เรามีความทุกข์ทั้งหลาย เพราะอะไร?

ท่านพุทธทาสภิกขุ
"นี่ พระพุทธเจ้าท่านจึงเปลี่ยนว่า เรื่องนั้นพักไว้ก่อน พูดเรื่องนี้กันใหม่ว่า แกกําลังมีทุกข์เพราะอะไร? คนนั้นถ้าตอบให้ตรง ตอบให้ถูก ก็ต้องตอบว่า ทุกข์เพราะความอยาก คือ ตัณหา

มีกามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา

ที่นี้ถามว่า ทําไมถึงมีตัณหา? ทําไมถึงไปอยากอย่างนั้น?

มันก็เพราะโง่ ไม่รู้ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นอนัตตา ไม่รู้ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น มันโง่ โง่คืออวิชชา

ดังนั้น ถ้าจะตัดตัณหาเสียให้ได้ ก็๋ต้องศึกษาให้มีความรู้ที่เป็นวิชชาขึ้นมาว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น คือ ไม่น่าเอาไม่น่าเป็น เมื่อเห็นความจริงข้อนี้แล้ว กามตัณหาก็ดับไป ภวตัณหาก็ดับไป วิภวตัณหาก็ดับไป

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทุกข์! เศร้า! เหงา! เครียด! แล้วจะแก้อย่างไรดีหล่ะ

จากที่ผมได้เดินชมนิทรรศการรณรงค์ป้องเอดส์ในวันเอดส์โลก ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ก็มีกิจกรรมต่างๆมากมาย ซึ่งนอกเหนือจากกิจกรรมรณรงค์เรื่องเอดส์ ที่มีการป้องกันการติดเชื้อ เช่นสาธิตการใช้ถุงยาง แจกถุงยาง แจกเจลหล่อลื่นชนิดน้ำ แล้ว ยังมีการกิจกรรมเกี่ยวกับสร้างความสุข ลดความเครียด การคิดอย่างสร้างสรรค์ พลังสู่ความสำเร็จ และอื่นๆอีกมากมาย ผมได้เดินดูเกือบทุกบูท แต่มีเวลาเดินชมน้อยไปหน่อย ก็เลยใช้วิธีการหยิบแผ่นพับ โบรชัวร์ มาอ่าน ใครจะเลียนแบบผมก็ได้นะ มีอะไรก็หยิบมาก่อน มีเวลาค่อยอ่าน แต่ก่อนผมเคยหยิบมา หยิบมาแช่เอาไว้ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด ไม่ได้เอามาทิ้งเฉยๆ อ่านด้วย เห็นว่ามีคุณค่าและเป็นประโยชน์ ก็เลยนำมาเผยแพร่ต่อให้ท่านผู้อ่านที่แวะเวียนผ่านมาเยี่ยมบล็อกแห่งความสุขนี้ ครั้งนี้ขอหยิบหัวข้อ "ทุกข์! เศร้า! เหงา! เครียด! แล้วจะแก้อย่างไรดีหล่ะ" ก็จะเป็นวิธีการจัดการกับ ความทุกข์! ความเศร้า! ความเหงา! ความเครียด! เรื่องพวกนี้ถ้าเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้แล้ว ยังไงก็ต้องเจอ เมื่อมันหนียังไงก็ไม่พ้น เราจะมีวิธีจัดการยังไง ติดตามอ่านได้เลยครับ

ทุกข์! เศร้า! เหงา! เครียด! แล้วจะแก้อย่างไรดีหล่ะ

1) หนีออกจากสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด
2) หากิจกรรมที่เราสนใจเพื่อเบี่ยงเบนสถานการณ์ความเครียดนั้นๆ
3) หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
4) แบ่งเวลาระหว่างเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวและครอบครัวให้ลงตัว
5) จัดสมดุลการทำงานให้เหมาะสมในแต่ละวันไม่หนักหรือเบาจนเกินไป
6) เมื่อรู้สึกเครียดคุณควรหางานอดิเรกทำเพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเองอย่างง่ายๆ เช่นฝึกสมาธิ ฝึกหายใจ ฟังเพลง ปลูกต้นไม่ เป็นต้น
7) พูดคุยกับบุคคลที่วางใจได้

ที่มา : แผ่นพับสำนัสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทความดีๆ สำหรับคนมีทุกข์

คุณเคยรู้สึกไหม ว่าชีวิตช่างลำบาก
คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่
คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์

อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด?

เรื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้

ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง
รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า
แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น
เพราะเขามีรายได้น้อย
ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณ แม่สูงอายุ
พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน
ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

จุกจิกภายในครอบครัว

เขาอธิบายให้ฟังว่า
เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย
ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก
สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น
เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง
ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง
สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น
และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ
จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม

คุณอาจจะถามว่า
ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ?
เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ?
หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่
ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน
แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้
ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้

เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก
ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื ้น
ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา
แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น
เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด
เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน
เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา
เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ
ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน
(ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน)
แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน

และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ
ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ
ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น
พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า

ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่ อชิ้นขนมปัง
ราคาไม่ถึง 25เซน
เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน
เขามีร่างกายครบสามสิบสอง
มีอาชีพการงาน มีครอบครัว
มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย
มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า
มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี

ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า
ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ?
บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ?
บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่
ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ !

“ความรู้สึกพอ”
ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ
แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ
เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก
แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น
ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา
จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี
ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน
แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง
จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน
การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น
มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน
อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ
จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา
แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตข ึ้นในใจของคุณเอง

หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้
แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต
จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้

จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ
จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง
หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม
จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น
หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง
บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน
ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน
โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง
ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป
เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น
เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว
ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ

แปลจากบทความของ "โหว เหวินหย่ง" เจ้าของผลงาน เกิดมาซน ทั้งสองเล่ม