วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

กฎ 2 นาที = “เดี๋ยว” กับ “เดี๋ยวนี้”

กฎ 2 นาที = “เดี๋ยว” กับ “เดี๋ยวนี้”

คำหลัง..ยาวกว่าคำหน้านิดเดียว
แต่อนาคตยาวไกลกว่ากันเยอะ
– ประภาส ชลศรานนท์
ช่วงนี้ผมพยายามเตือนตัวเองให้ใช้ "กฎ 2 นาที" อยู่บ่อยๆ
กฎข้อนี้ ...มาจากของ David Allen ผู้เขียนหนังสือ Getting Things Done ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับ Productivity ที่ดังมากๆ ในอเมริกา
กฎ 2 นาที ที่ว่า ก็คือ.. ถ้าอะไรใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที ก็ทำมันไปเลย
เช่น ตอนค่ำกลับมาถึงบ้าน กินน้ำผลไม้เสร็จแล้ว แทนที่จะแช่แก้วน้ำไว้ค้างคืน ก็ล้างมันซะเลย หรือ
เมื่อเช้านี้ ผมยกตะกร้าผ้าลงมาข้างล่าง เพื่อเอาเสื้อผ้าไปส่งซัก พอเดินถือตะกร้าเปล่ากลับมา ผมก็มีทางเลือกว่า...
จะวางตะกร้าไว้ข้างล่างก่อน เพื่อจะเดินไปกินข้าวในครัวหรือ
จะเอาตะกร้าผ้าขึ้นไปเก็บที่ห้องก่อนแล้วค่อยลงมากินข้าว
ธรรมดา...ผมจะเลือกอย่างแรกเพราะขี้เกียจเดินขึ้น-เดินลง
แต่คราวนี้ ...พอรู้ว่าการเอาของขึ้นไปเก็บก่อน ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที ผมก็เลยเอาตะกร้าขึ้นไปเก็บเลยแล้วค่อยเดินลงมาทานข้าว อาจจะเสียแรงเพิ่มซักหน่อย แต่ก็ถือว่า...เป็นการออกกำลังกายไปในตัว

การใช้ " กฎ 2 นาที "
นี้ มี ข้อดี 2 อย่าง คือ
1. ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะ ถ้าใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที ....ก็ทำไปเลย ยังไงก็ไม่ได้เสียแรงเสียเวลาอะไรอยู่แล้ว
2. ป้องกันดินพอกหางหมู
ลองมองดูรอบๆ ก็ได้ว่า
ที่ห้องเรารก หรือที่บ้านเรามีของอยู่ผิดที่ผิดทาง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่เราบอกตัวเองว่า “เอาไว้ก่อน” แทบทั้งนั้น ทั้งๆ ที่จริงแล้ว..... ถ้าเราตัดสินใจเก็บมันให้ถูกที่ซะตั้งแต่แรกก็คงไม่รกขนาดนี้
จะว่าไป พ่อของผมเองก็เหมือนจะใช้กฎนี้เช่นกัน (แม้อาจจะไม่รู้ตัวก็ตาม) เวลาใครมาปรึกษาเรื่องอะไร ถ้าพ่อรู้สึกว่า น่าจะมีเพื่อนคนไหนช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ ก็จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาคนคนนั้นทันที
จนคนที่มาปรึกษาก็ประทับใจระคนแปลกใจว่า อะไรจะ take action กันรวดเร็วปานนั้น ซึ่งจะว่าไป...ก็เป็นวิธีที่ถูก เพราะโดยทั่วไปแล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอก่อน
แต่ที่เราส่วนใหญ่...ไม่ค่อยทำอะไรทันที ก็เพราะว่าลึกๆ เราอาจจะกลัวอะไรบางอย่าง (....ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไร.....) ก็เลยผลัดวัน ประกันพรุ่งไปก่อน แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสุดท้าย...ก็ต้องทำอยู่ดี
บล็อกเกอร์ชื่อ James Clear ได้นำ "กฎ 2 นาที" นี้ 
ไปต่อยอด ด้วยการบอกว่า
....ถ้าเราจะเริ่มนิสัยอะไรใหม่ๆ..... ก็ควรจะเป็นนิส้ยที่ทำได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีเช่นกัน
ยกตัวอย่าง เช่น
⏩อยากสุขภาพดีขึ้น ก็กินผลไม้ซักหนึ่งลูก
⏩อยากจะเขียนเก่งขึ้น ลองเขียนอะไรก็ได้ซักหนึ่งประโยค
⏩อยากจะอ่านหนังสือมากกว่านี้ ก็อ่านหนังสือซักหนึ่งหน้า
⏩อยากจะฝึกสมาธิ ก็ลองนั่งดูลมหายใจเข้าออกซัก 10 ครั้ง
 ทั้ง 4 อย่างนี้ ล้วนแต่ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีทั้งนั้น
และพอเราเริ่มทำมันบ่อยครั้งเข้า เราก็จะสามารถ...เอาชนะแรงเฉื่อย ที่เคยฉุดเราไว้
และทำสิ่งๆ นั้น ได้นานขึ้นเรื่อยๆ
ข้อดีที่สุด ของ "กฎ 2 นาที"
ก็คือ
มันบังคับให้เราทำหลายๆ เรื่อง “เดี๋ยวนี้” โดยไม่มีข้อแม้ หรือ ข้อแก้ตัว
เมื่อลองทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ผมใช้ทัศนคติแบบ “เดี๋ยวก่อน” เอาไว้หลายเรื่องทำให้เสียโอกาสไปไม่รู้เท่าไหร่
ตอนนี้เลยต้องหัดใช้ชีวิตแบบ “เดี๋ยวนี้” ให้มากขึ้นครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก...มีเพื่อนเป็นภูเขา
โดย ประภาส ชลศรานนท์
Getting Things Done...by David Allen
How to Stop Procrastinating
by Using the “2-Minute Rule”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น