วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลกก็คือพระในทางพุทธศาสนา

The happiest persons on earth !!!(You too, can be one of them !!!)

+ หนังสือ time magazine บอกว่า ที่อเมริกาได้ มีงานวิจัยพบ ว่าคนที่มีความ สุขมากที่สุดใน โลกก็คือพระใน ทางพุทธศาสนา
โดย ทดสอบด้วยการส แกนสมองของพระ ที่ ทำสมาธิและได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นจริง

+ หลัก ความเชื่อของ ศาสนาพุทธก็คือ เหตุที่ทำให้ เกิดความสุข นั้นก็คืออยู่ กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยาก ที่ไม่มีสิ้น สุด
ไม่ ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และ ใช้หลักเวรย่อม ระงับด้วยการ ไม่จองเวร ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตา กรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น

+ อริยะ สัจ 4 สิ่ง ที่พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบและบอก ไว้ด้วย ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า "ความ สุข"
เพราะ ถ้าเมื่อไรเรา กำจัด "ความ ทุกข์" ได้ แล้วความสุขก็ จะเกิดขึ้น ทันที



+ อุปสรรค ของความสุขก็ คือแรงปรารถนา และ ตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คนเราจะมีความ สุขมันไม่มี ขึ้นอยู่กับว่า"มี เท่าไร"
แต่ ขึ้นอยู่ที่ว่า เรา "พอ เมื่อไร" ความ สุขไม่ได้ขึ้น กับจำนวนสิ่ง ของที่เรามี หรือเราได้...

+ ท่าน สังเกตเอาจาก ชาวนาที่ จ อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมี ความสุข แต่เมื่อไรที่ชาวนาคนไหนอยากจะได้ ควายตัวที่ 2 ปั๊ป
ชาวนา คนนั้นจะไม่มี ความสุขเลย เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดีถึงจะได้ควายอีกสักตัว เราก็เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคัน ใหม่ อยากได้บ้านใหม่
อยาก ไปเที่ยว อยากจะมัดใจไอ้หมอนั้นให้ได้ (อิ อิ) ฯลฯ เราจะเริ่มเป็นทุกข์ เพราะเราต้อง คิดหาทางที่จะ เอามันมา ให้ได้มาเป็นของเรา..

+ ดัง นั้นวิธีจะมี ความสุขอันดับ แรกต้อง "หยุด ให้เป็น และ พอใจให้ได้" ถ้า เราไม่หยุดความ อยาก(ที่มาก เกินไป)ของเรา แล้วละก็
เรา ก็จะต้องวิ่ง ไล่ตามหลายสิ่ง ที่เรา "อยาก ได้" แล้ว นั่นมันเหนื่อย และความทุกข์ ก็จะตามมา...

+ ข้อ ต่อมาที่ทำให้ เราเป็นสุขคือ การมองทุกอย่าง ในแง่บวก เมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถาม ว่าวันนี้เป็น ไงบ้าง ?
ส่วน ใหญ่เราจะตอบ ว่า "โดน บอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้างี่เง่า ฯลฯ " ทำไม เราถึงชอบคิด ถึงแต่เรืองไม่ ดี

+ ใน ชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้อง เจอทั้งเรื่อง ดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราต้องเริ่ม ด้วยการมองแต่ สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก
เพื่อ ที่ใจเราจะได้ เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เรา ได้ทำ....

+ ข้อ ต่อมาคือการให้ หมายรวมถึงการ ให้ในรูปแบบ สิ่งของหรือ เงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ความ เมตตากรุณาต่อ กัน
ให้ อภัยทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความ สุข....

+ การ ปล่อยวางให้ได้ ในทุกสิ่งที่ เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะ ร้ายแรงและ เศร้าโศกเพียง ใด
จำ ไว้ว่ามันจะโดน เวลาพัดพามันไป จากเราไม่ช้าก็ เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต
ไม่ ว่าจะเป็น เรื่องที้เรา ไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
เรา ทุกคนต้องได้ ผ่านบททดสอบนี้ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...

+ ขอ ให้เรารักษาใจ เราให้เป็น สุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ใจข องเรา นี่เอง

ที่มา: forward mail และ นิตยสาร TIME

2 ความคิดเห็น:

tong_ub กล่าวว่า...

จะสุข จะทุกข์ (จิต+ใจ เราเป็นผู้กำหนดทั้งมวล)
คิดให้สุขก็สุข
คิดให้ทุกข์ก็ทุกข์

Somjit Maneewong กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆที่แสดงความคิดเห็นนะครับ

แสดงความคิดเห็น