วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความสุขที่แท้จริง (2)

ความสุขที่แท้จริง

ผมเคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ท่านหนึ่งลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง แล้วบอกให้นักเรียนลองทำให้เส้นตรงเส้นนี้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ นักเรียนต่างหาวิธีทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไม่ได้เพราะทุกคนติดอยู่กับภาพลักษณ์ของการลบเส้นเดิมทิ้งไปเพื่อให้เส้นเดิมสั้นลงไป อาจารย์ท่านนั้นจึงขอให้นักเรียนรายหนึ่งเขียนเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเส้นเดิม ภายหลังจากที่นักเรียนลากเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิมแล้ว อาจารย์ท่านนั้นอธิบายให้นักเรียนฟังว่า

"การที่มีคนลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ไม่ว่าเส้นตรงที่ลากมาจะยาวแค่ไหน เราสามารถทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง แต่เราสามารถทำให้เส้นของคนอื่นสั้นลงโดยที่เราลากเส้นของเราให้ยาวขึ้น ยิ่งเราลากเส้นยาวออกไปมากเท่าไหร่เส้นเดิมที่ลากไว้ก็จะสั้นลงไปทุกที เปรียบเหมือนการที่ใครซักคนทำในสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ประสบความสำเร็จอยู่ เราไม่ควรให้ความอิจฉาริษามาก่อให้จิตของเรารุ่มร้อนและหาทางกลั่นแกล้งคนๆนั้นด้วยการหาทางทำลาย เหมือนกับการพยายามลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง ตรงกันข้ามควรจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เหมือนกับที่เรามองความยาวของเส้นตรงที่คนอื่นลากไว้ แต่เราหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับการพยายามลากเส้นตรงเส้นใหม่ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ไปลบเส้นของคนอื่น เส้นตรงที่เราลากก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ โดยเส้นเดิมที่เราลากไว้ก็จะสั้นลงไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบออกให้สั้นลง"

การคิดในเชิงสร้างสรรค์แบบนี้ทำให้จิตใจของเราโปร่งสบาย ไม่รุ่มร้อน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้แข่งกับใครแต่เราแข่งกับตัวของเราเองอยู่ตลอดเวลาและเราไม่ได้ไปสร้างศัตรูหรือไปก่อเวรกับคนอื่น ตรงกันข้ามการแข่งขันระหว่างกันเป็นไปในทางเกื้อกูลกันทำให้ระบบโดยรวมมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลาไปในทางที่เป็นบวก คงไม่สำคัญว่าคุณต้องชนะคนทั้งหมด สิ่งสำคัญคงอยู่ที่คุณพยายามชนะตัวของคุณเองอยู่ตลอดเวลาต่างหาก เพียงแต่เมื่อใดคุณสามารถชนะตัวของคุณเองได้ ชัยชนะที่ได้ก็จะมีความหมายและทำให้คุณเกิดความภูมิใจ และถ้าคุณยังไม่หยุดพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะชนะตัวคุณไปเรื่อยๆ เมื่อคุณมองย้อนกลับมาเมื่อไหร่คุณก็จะมีแต่ความภูมิใจในชัยชนะที่ขาวสะอาด ชัยชนะที่เป็นแรงขับดันให้คุณพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

การประสพความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมีอยู่หลายวิธี บางครั้งผู้คนต่างพยายามเลียนแบบเส้นทางประสพความสำเร็จของผู้อื่น แต่เมื่อเดินตามเส้นทางนั้นกลับพบว่าไม่ประสพความสำเร็จนัก ความสำเร็จในชีวิตของผู้คนคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างเดียวกันเสมอไป และเส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ความสุขใจที่ได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดมากกว่า

จงอย่าพยายามเลียนแบบเส้นทางไปสู่ความสุขของผู้อื่น เพราะนิยามความสุขของผู้คนต่างกัน ความสุขที่เราเห็นผู้คนอื่นมีความสุขกันอยู่ ถ้าเราไปอยู่ในสถานะนั้นเราอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่เราเข้าใจก็ได้ สุขและทุกข์แท้จริงอยู่ที่ใจของเรากำหนดต่างหาก ลองมองทุกอย่าง อย่างเป็นกลางๆ ไม่เอาความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง อคติ มาครอบงำ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบความหมายของคำว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง

ที่มา: คุณชาคโร

ความสุข ที่แท้จริง คืออะไรในชีวิต

ความสุข ที่แท้จริง คืออะไรในชีวิต

ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และพากันแสวงหา ด้วยวิธีการต่างๆ การแสวงหาความสุขนั้นๆ ก็ย่อมจะพาเอาความทุกข์พ่วงเข้ามาด้วย ทุกคนต้องการ ความสุขไม่ต้องการความทุกข์ แต่อะไรเล่าเป็นความสุขที่แท้จริงของตัวเรา จะเห็นได้ว่าบางคนไป หลงเสพความทุกข์ แต่เข้าใจว่าเป็นความสุข เช่น การกินเหล้า กินเบียร์ สูบบุหรี่ ตลอดจนเครื่องดื่มบางชนิด เป็นต้น โดยหลงไปว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นสุข หรือยอดของความสุขไป กว่าจะรู้ตัวก็เกิดโรคร้ายแรงเสียแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตก็มาดับสลายลง กับสิ่งที่ไร้สาระ อย่างน่าเวทนายิ่งนัก

ความสุขโดยพื้นฐาน ได้แก่ความพอใจ แต่ความพอใจนั้น มันจะซ่อนพิษภัยและโรคร้ายต่างๆ ไว้ด้วยหรือไม่ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับระดับของสติและปัญญาในแต่ละคนด้วย

ความสุขที่แท้จริง นั้นย่อมเกิดจากบุญกุศล คือ ความสงบที่เกิดขึ้นในจิตใจ พ้นจากทุกข์โทษความดิ้นรน ไม่มีกระสับกระส่ายเดือดร้อนกระวนกระวาย

บุญกุศล จะเกิดมีขึ้นได้นั้นต้องอาศัยการปฏิบัติบำเพ็ญ หมั่นประกอบให้มีขึ้นอย่างสม่ำเสมอตามแนวทางพระพุทธศาสนา การบำเพ็ญบุญกุศล คุณงามความดี ในทางพระพุทธศาสนาท่านแยกไว้หลายประการ แต่สรุปแล้วมีอยู่ 3 อย่าง คือ ทาน ศีล และภาวนา

ทาน ได้แก่ การบริจาค แบ่งปันเสียสละ เมื่อได้บำเพ็ญให้บริบูรณ์เต็มที่แล้ว สามารถละหรือตัดกิเลส คือความโลภให้เบาบาง หรือให้หมดสิ้น ทำให้เกิดความสุข ความสงบใจได้

ศีล ได้แก่ การปฏิบัติกาย วาจา ให้ตั้งอยู่ในความดีงาม ในความสงบเรียบร้อย ตามกฎระเบียบ ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม และเมื่อได้บำเพ็ญให้บริบูรณ์เต็มที่แล้ว สามารถละหรือตัดกิเลส คือ ความโกรธให้เบาบาง หรือให้หมดสิ้น ทำให้เกิดความสุข ความสงบใจได้

ภาวนา ได้แก่ การทำจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในธรรม เป็นการเจริญปัญญาหรือจิตใจ พัฒนาจิตใจเพื่อให้เข้าถึงทางแห่งชีวิตตามความเป็นจริง ให้รู้จักการดำเนินชีวิต ตลอดถึงปฏิบัติต่อตนและคนอื่นด้วยความถูกต้อง และเมื่อได้บำเพ็ญให้บริบูรณ์เต็มที่แล้ว สามารถละหรือตัดกิเลสคือความหลงให้เบาบาง หรือให้หมดสิ้น ทำให้เกิดความสุข ความสงบใจได้

ผู้ปรารถนาความสุข เมื่อหมั่นประพฤติปฏิบัติประกอบคุณงามความดี หมั่นบำเพ็ญบุญกุศลอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้ อานิสงส์ที่ได้รับจากบำเพ็ญบุญกุศลนี้ ย่อมจะเป็นสิ่งที่เป็นมงคล จะช่วยให้ชีวิตประสบแต่ความสุขที่แท้จริงตามลำดับ จนถึงขั้นสูงสุดคือพระนิพพาน

เพราะฉะนั้น จงพากันมุ่งบำเพ็ญคุณงามความดี ตั้งใจประกอบบุญกุศล ซึ่งจะดลบันดาลให้ชีวิตประสบแต่ความสุขความเจริญ อันเป็นความสุขที่แท้จริง ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ธรรมะวันหยุด

พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

10 วิธีสร้างสุขด้วยตนเอง (ความสุข....ต้องสร้างเอง)

พอดีได้รับ forward mail จากเพื่อนเลยอยากนำมาเผยแพร่ต่อ เห็นว่าเป็นสิ่งดีมีประโยชน์และสามารถนำเอาไปใช้ได้
ลองอ่านดูนะครับ
..
@_@., ความสุข....ต้องสร้างเอง @_@.,
ความสุขของคน ๆ นั้น อาจไม่ใช่ความสุขของคน ๆ นี้ เพราะมันคือความรู้สึกส่วนตัว
ต่างคนต่างมีความสุขที่ต่างกันไปไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ถ้ามองกันให้ดี ๆ แล้ว ความสุขมีเพียง 2 แบบเท่านั้นคือ
“ การได้รับและทำในสิ่งที่เราพอใจ" กับ “ การได้ให้หรือทำให้คนอื่นพอใจ “
ความสุข 2 แบบใกล้เคียงกันมาก เราทุกคนจึงต้องรู้จักวิธีสร้างและรู้จักควบคุมให้เกิดความสมดุลซึ่งกันและกันระหว่าง “ การได้รับ กับการได้ให้ “ เพื่อเราทุกคนจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

10 วิธีสร้างสุขด้วยตนเอง

1. รู้จักรักตัวเองให้ถูกทาง ดูแลตัวเองให้ดี อย่าจมอยู่กับอดีตและสิ่งที่ทำให้ชีวิตตัวเองย่ำแย่ อย่ารักมากจนเห็นแก่ตัว และหัดรักคนอื่นให้เป็นก่อนนะ
2. พอใจ....เพียงพอ พอใจในสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่คนอื่นได้ จะลดอาการขี้อิจฉา ที่บั่นทอนความสุขเอามาก ๆ
3. เข้าใจในโลกให้มากขึ้น อย่ามองแต่แง่ร้าย ๆ แง่ดี ๆ มีให้มองอีกเยอะ อย่าเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน ของทุกสิ่ง ของทุกอย่าง
4. อิสระ ให้อิสระแก่ตัวเองมากขึ้น อยากทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองเสียหน่อย อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นพอ
5. รู้จักให้สะกดคำว่า "เสียสละ" ให้คุ้นหู ท่องคำว่า "แบ่งปัน" ให้ขึ้นใจ คำว่า "ให้" ไม่ใช่สิ่งของแต่อาจเป็นความรักความรู้ หรือความเห็นอกเห็นใจ
6. ให้อภัย ใคร ๆ ก็ทำพลาดกันได้ ให้อภัยกับความผิดพลาดทั้งของตนเองและของคนอื่น ถ้าไม่เคยทำผิด จะมั่นใจได้อย่างไรว่าถูก แต่ระวังอย่าให้ผิดซ้ำสองก็พอ
7. ให้โอกาสตัวเอง ลองทำอะไรที่คิดว่าทำไม่ได้ กล้า ๆ หน่อย ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างที่คิด แต่เชื่อเถิดว่า "สนุก"
8. อารมณ์ขัน เป็นยาลดความเครียดชั้นดี ไม่ต้องหาซื้อจากหมอตี๋ แถมพกพาติดตัวสะดวก อารณ์ดีใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ ๆ เป็นเสน่ห์น่ารักอย่างร้ายกาจ
9. มีเพื่อน จงมีเพื่อนมากกว่าแฟน ถ้าตรงข้ามเมื่อไหร่ ชีวิตยุ่งยากเมื่อนั้น

10. เป็นคนดี ทำตัวให้ดี ๆ ไม่เดือดร้อนใคร ใครก็อยากอยู่ด้วย ทำไม่ดีต้องหนีต้องซ่อน จะมีความสุขได้อย่างไร ฉนั้น มาเป็นคนดีกันดีกว่า

ที่มา: forward mail